วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

ไปเที่ยวเทศกาลปามะเขือเทศที่เมืองบูโยล
คุณรู้จักมะเขือเทศมากน้อยแค่ไหนคะ? วันนี้ทราเวลไทยซ่าส์ขอพาเพื่อนๆไปเที่ยวงานเทศกาลปามะเขือเทศ (Tomato Fight Festival) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า ลา โตมาตินา (La Tomatina) เทศกาลท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศสเปน (Spain) โดยเทศกาลปามะเขือเทศนั้นถูกจัดขึ้นที่เมืองบูโยล (Bunol) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบาเลนเซีย/วาแลนเซีย (Valencia Province) 1ใน 3 จังหวัดของแคว้นบาเลนเซีย (Valencian Community) แคว้นปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลาง-ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปนนั่นเองค่ะ 


เมืองบูโยล

เมืองบูโยล ระเทศสเปน

        เมืองบูโยล ถูกสร้างขึ้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำบูโยล (Bunol River) ตัวเมืองถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา จากการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าพื้นที่รอบๆเมืองบูโยลนั้นมีหลักฐานทางอารยธรรมที่มีความเก่าแก่ย้อนหลังกลับไปถึง 50,000 ปี และในทุกๆวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกๆปี ที่เมืองบูโยลจะมีการจัดงาน เทศกาลปามะเขือเทศ ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ 

เมืองบูโยล


เมืองบูโยล ระเทศสเปน

        โดยประวัติความเป็นมาของเทศกาลปามะเขือเทศนั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางปี 2483 ได้เกิดเหตุการกลุ่มวัยรุ่นในเมืองเกิดทะเลาะวิวาทแล้วเริ่มขว้างปาสิ่งของใส่กัน บังเอิญสิ่งที่ใกล้มือที่สุดดันเป็นลูกมะเขือเทศ เวลาผ่านไป ผู้คนเริ่มติดใจสงครามมะเขือเทศและจัดต่อกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการตั้งเป็นเทศกาลประจำปีอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2500 


เทศกาลปามะเขือเทศ

เทศกาลปามะเขือเทศ เมืองบูโยล ระเทศสเปน

        สำหรับไฮไลท์ความสนุกของเทศกาลปามะเขือเทศนั้น นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานจะได้สนุกนานไปกับกิจกรรมการปามะเขือเทศที่ใครหลายๆคนต่างรอคอย แต่ทว่าไม่ใช่ว่าใครๆจะเดินเข้าไปแล้วก็ปามะเขือเทศใส่กันได้ง่ายๆ งานจริงจะไม่เริ่มจนกว่าจะมีผู้กล้าสามารถปีนขึ้นไปคว้าหมูแฮมที่แขวนอยู่ที่ปลายเสาทาน้ำมันลงมาได้ซะก่อน ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ไม่หมู ระหว่างนั้นรถบรรทุกก็จะฉีดน้ำใส่ผู้คนที่ร้องรำทำเพลงอยู่ด้านล่าง ทั้งเชียร์ทั้งแช่งเป็นที่สนุกสนาน เมื่อคว้าแฮมลงมาได้ เสียงปืนก็จะดังขึ้นเป็นสัญญาณ รถขนมะเขือเทศกว่า 40 ตันก็จะค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา ทีนี้ก็ตัวใครตัวมัน 


เทศกาลปามะเขือเทศ

เทศกาลปามะเขือเทศ เมืองบูโยล ระเทศสเปน

        แน่นอนว่าการขว้างมะเขือเทศใส่กันนั้นก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นมาได้เหมือนกัน จึงมีกฏบางข้อที่ควรจำสำหรับผู้เข้าร่วมงาน อย่างแรกคือ ใช้มะเขือเทศที่บีบแล้วเท่านั้น (ห้ามใช้อย่างอื่นขว้างเด็ดขาด) ควรระวังเรื่องแรงขว้างด้วย เพราะแน่นอนว่า คงไม่มีใครอยากโดนมะเขือเทศทั้งลูกกระแทกเข้าที่หน้าแบบเต็มแรง การโดนผลไม้กระแทกหน้าด้วยความเร็วสูงไม่น่าจะสนุกนัก อย่างที่สองคือ ควรใส่แว่นตาป้องกันมะเขือเทศเข้าตา สามคือ ห้ามมีการฉีกเสื้อผ้าผู้อื่น (ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว) สุดท้ายคือ เมื่อเสียงปืนครั้งที่สองดังขึ้น สงครามมะเขือเทศเป็นอันจบลง 


เทศกาลปามะเขือเทศ

เทศกาลปามะเขือเทศ
เทศกาลปามะเขือเทศ เมืองบูโยล ระเทศสเปน

        กลุ่มวัยรุ่นที่ปามะเขือเทศใส่กันเป็นกลุ่มแรกคงไม่นึกว่า การทะเลาะวิวาทกันเล็กๆ น้อยๆ จะกลายมาเป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีอย่างทุกวันนี้ไปได้ และงานก็ดูเหมือนจะมีผู้สนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี นักท่องเที่ยวกว่า 40,000 คนต่างหลั่งไหลกันเข้ามาที่เมืองเล็กๆอย่าง เมืองบูโยล ประชากรดั้งเดิมของเมืองนั้นมีอยู่แค่ประมาณ 10,000 คนเท่านั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่สนใจมาร่วมงานควรจะพักที่เมืองบาเลนเซียที่อยู่ใกล้ๆจะดีกว่า ใช้เวลาเดินทางมาบูโยลประมาณ 30 นาทีเท่านั้น 

ตำนาน วันฮัลโลวีน

วันฮัลโลวีน ( 31 ตุลาคม) เป็นอีกเทศกาลหนึ่ง ของชาวตะวันตก ที่คนไทยเราก็ฮิตไปกับเค้าด้วย และเมื่อพูดถึงวันฮัลโลวีนแล้ว หลายคนคงนึกถึง การแต่งกายแฟนซีเลียนแบบผี หรือไม่ก็ลูกฟักทองแกะสลัก และความสนุกสนาน ในการจัดงานฮัลโลวีนปาร์ตี้ และไหนๆ ก็รับเอาธรรมเนียมนี้ ของเค้ามาแล้ว ก็มาฟังเรื่องราว เกี่ยวกับที่มาของ วันฮัลโลวีนกันหน่อยเป็นไร

คำว่า "ฮัลโลวีน" หรือ " Halloween" นั้นเพี้ยนมาจาก " All Hallows Eve" คือ คืนก่อนวัน " All Hallows Day" หรือ " All Saint's Day" (วันที่ 1 พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นวันที่เหล่าคาทอลิกจะมาปฏิบัติศาสนกิจเพื่อระลึกถึงนักบุญต่างๆ

ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลฮัลโลวีน มันก็มีมาหลายกระแส แต่ที่คล้ายๆ กันก็คือ เทศกาลฮัลโลวีน เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว จากความเชื่อของชาวเซลติก (ชนพื้นเมืองตอนเหนือของยุโรป) โดยบางคนก็บอกว่า เป็นเทศกาล บูชาเทพเจ้า แห่งความตาย ก่อนจะเข้าสู่ฤดูเหมันต์ (ฤดูหนาว) โดยการนำเหล้าและอาหารออกมาวางนอกบ้าน เพื่อให้เทพเจ้าแห่งความตายได้ดื่มกิน

บ้างก็ว่า วันที่ 31 ตุลาคม เป็น วันปล่อยผี (คงคล้ายๆ กับวันทำบุญเดือนสิบของไทย) เหล่าวิญญาณจะกลับมายังโลก เพื่อเข้าสิงร่างของคนที่มีชีวิตอยู่ ชาวบ้านที่กลัวว่าจะถูกวิญญาณเข้าสิง ก็จะทำการดับเตาไฟในบ้าน เพื่อบ้านจะได้หนาวเย็น วิญญาณจะได้ไม่อยากเข้ามา และต่อจากนั้น ก็จะออกไปรวมตัวกัน ก่อกองไฟเพื่อให้วิญญาณกลัว นอกจากนี้ยังแต่งตัวให้เหมือนผี เดินขบวนส่งเสียงร้องไปรอบๆ หมู่บ้าน เพื่อให้วิญญาณเข้าใจผิดว่าเป็นพวกเดียวกัน (คนหลอกผี !!! )
ฟักทองแกะสลัก ( Jack-o-lantern )










สำหรับที่มาของ ฟักทองแกะสลัก ( Jack-o-lantern ) เป็นเรื่องเล่าของชาวไอริชว่า ในอดีตมีชายจอมขี้เหนียว ขี้โกง แถมขี้เมา ชื่อนายแจ็ค ในวันฮัลโลวีนในปีหนึ่ง เป็นวันที่เขาต้องตาย ซาตานจึงเดินทางมาหาเจ็คเพื่อเอาวิญญาณเขาไปนรก ซึ่งขณะนั้นแจ็คกำลังดื่มเหล้าอยู่ จึงขอซาตานว่าดื่มเสร็จแล้ว จะไปลงนรกกับซาตาน เมื่อดื่มเสร็จจึงออกอุบายหลอกล่อ ว่าถ้าซาตานมีอิทธิฤทธิ์จริง ลองแปลงร่างเป็นเหรียญให้ดูหน่อยซิ ซาตานก็หลงเชื่อ ทำตามคำท้าของแจ็ค เมื่อซาตานแปลงร่างเป็นเหรียญ แจ็คก็จัดการเก็บเหรียญใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อซึ่งอยู่ติดกับไม้กางเขน เพื่อไม่ให้ซาตานกลับมาเป็นร่างเดิม ต่อมาแจ็คได้ยื่นข้อเสนอกับซาตานว่า หากอยากกลับมาสู่ร่างเดิม จะต้องสัญญาว่า จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับตนอีก เป็นเวลา 1 ปี ซาตาน ก็ตกลง



หนึ่งปีผ่านไป ซาตานก็กลับมาหาแจ็คอีก คราวนี้ แจ็คก็ออกอุบายหลอกอีกครั้ง บอกให้ซาตานปีนต้นไม้ไปเก็บผลไม้ให้หน่อย เมื่อซาตาน (คนซื่อ) ปีนขึ้นไป แจ็คก็จัดการแกะเปลือกไม้ เป็นรูปไม้กางเขน ทำให้ซาตานไม่สามารถปีนลงมาได้ แล้วแจ็คก็ยื่นเงื่อนไขว่า ถ้าซาตานอยากลงจากต้นไม้ จะต้องสัญญาว่าภายใน 10 ปีจะไม่มาเอาวิญญาณของแจ็คไป ซึ่งซาตานก็จำต้องตกลงให้คำสัญญาอีกจนได้
แต่มนุษย์ทุกคนก็หนีไม่พ้นความตาย แจ็คก็เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเขาตาย กลับไม่มีที่ไหนยอมรับวิญญาณของเขา สวรรค์ไม่ต้อนรับเขาเพราะเป็นคนเจ้าเล่ห์ ส่วนนรกก็ไม่ต้องการ เพราะว่าหลอกซาตานเอาไว้ถึงสองครั้งสองครา แจ็คจึงเป็นผีเร่ร่อน อยู่กับความมืดมิดเพียงลำพัง แต่ซาตานก็ยังใจดี โยนถ่านที่ยังไม่มอดให้กับแจ็ค 1 ก้อน ไว้ส่องทาง และเพื่อรักษาถ่านให้ส่องสว่างอยู่นานที่สุด ผีแจ็คก็ได้แกะลูกมันแกวให้เป็นรู และใส่ก้อนถ่านลงไป แล้วผีแจ็คกับตะเกียงมันแกว ก็ล่องลอยไปตามที่ต่างๆ ซึ่งคนไอริชเรียกผีแจ็คกับตะเกียงว่า Jack of Lantern ภายหลังได้เพี้ยนเป็น Jack O'Lantern 


ต่อมาคนในไอร์แลนด์ และสกอตแลนด์ ได้ทำ Jack O'Lantern เอง โดยการแกะสลัก หัวมันแกวหรือหัวมันฝรั่งให้ดูน่ากลัวแล้ววางไว้ที่หน้าต่าง เพื่อให้ผีแจ็คและผีอื่นๆ กลัว และเมื่อชาวอังกฤษ เดินทางอพยพไปอยู่อเมริกา ก็ได้นำธรรมเนียมนี้ติดไปด้วย แต่ที่อเมริกานั้นฟักทองหาง่าย อีกทั้งยังแกะสลักง่ายกว่ามันแกวกับมันฝรั่งด้วย ผู้คนจึงเปลี่ยนจาก การแกะสลักมันแกวมาเป็นฟักทองแทน (เนื้อฟักทองที่คว้านออกมาได้ ก็นำไปทำเป็นพายฟักทอง)

ส่วนประวัติความเป็นมาของ การเคาะประตูขอขนม หรือลูกอมหน้าบ้าน ( Trick-or-Treat ) นั้น ยังสรุปไม่ได้ว่ามีที่มาจากไหน บ้างก็ว่ามาจากพวกเซลติก ที่ในเทศกาล Samhain (ช่วงระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงแห่งการเก็บเกี่ยวพืชผล และถือเป็นวันปีใหม่) คนจะออกไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขออาหารกัน บ้างก็ว่ามาจากยุคกลางของยุโรป ที่เหล่าคริสเตียนจะเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อขอบิสกิต ในวัน All Saint's Day โดยสัญญาว่าจะสวดมนต์ให้กับญาติที่เสียชีวิตของผู้ให้บิสกิตนั้น


Trick-or-Treat
จากเรื่องราวต่างๆ พอจะสรุปได้ว่า วันฮัลโลวีนเกี่ยวเนื่องกับสามสิ่ง คือ ความตาย ภูตผีปีศาจ และช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยว แต่ที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็นที่ว่าเทศกาลนี้ เป็นเทศกาลเกี่ยวความตายเทศกาลเดียว ที่นำมาซึ่งความสนุกสนาน (ถ้าอยู่ในขอบเขต)

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557


เรื่องย่อ 47 Ronin (47 โรนิน)

แนว:  อีพิค 3D แอ็กชันผจญภัย
นักแสดง:    คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves), ฮิโรยูกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada),
โค ชิบาซากิ (Ko Shibasaki), ทาดะโนบุ อาซาโนะ (Tadanobu Asano)
และรินโกะ คิคุจิ (Rinko Kikuchi)
กำกับโดย:คาร์ล รินช์ (Carl Rinsch)
บทภาพยนตร์โดย: คริส มอร์แกน (Chris Morgan) และ ฮอสเซน อามินิ (Hossein Amini)
เรื่องราวภาพยนตร์โดย:คริส มอร์แกน (Chris Morgan) และ วอลเตอร์ ฮามาดะ (Walter Hamada)
อำนวยการสร้างโดย:สก็อต สตูเบอร์ (Scott Stuber), พาเมลา แอ็บดี้ (Pamela Abdy), อีริค แม็คลีออด (Eric McLeod)
คีอานู รีฟส์ หวนคืนสู่แวดวงแอ็กชันผจญภัยอีกครั้งอย่างดุเดือดใน 47 Ronin หลังจากที่ขุนพลผู้โฉดชั่วได้สังหารผู้เป็นนายของพวกเขาและสั่งเนรเทศพวกเขา ซามูไรไร้นาย 47 คนก็สาบานที่จะล้างแค้นและทวงคืนศักดิ์ศรีของตนเองกลับคืนมา
เมื่อถูกขับไล่จากบ้านเกิดเมืองนอนและต้องร่อนเร่ไปทั่วสารทิศ โรนินกลุ่มนี้จะต้องขอความช่วยเหลือจากไค (รีฟส์) ลูกครึ่งที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยกีดกัน เพื่อต่อสู้ในโลกที่โหดร้าย ที่เต็มไปด้วยสัตว์ลึกลับ เวทมนตร์เปลี่ยนร่างและความสยดสยองที่น่าอัศจรรย์ใจมากมาย
เมื่อทาสผู้ถูกกีดกันและเนรเทศผู้นี้กลายเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดของพวกเขา เขาก็ได้เปลี่ยนตัวเองกลายเป็นวีรบุรุษ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กบฏที่มีจำนวนน้อยนิดกลุ่มนี้ยืนหยัดเพื่อสร้างตำนานนิรันดร์ของตัวเอง
47 Ronin กำกับโดยผู้กำกับคาร์ล รินช์ (The Gift) อำนวยการสร้างโดยสก็อต สตูเบอร์ (Ted, Identity Thief), พาเมลา แอ็บดี้ (Identity Thief และ Endless Love ที่กำลังจะเข้าฉาย) และอีริค แม็คลีออด (Mr. & Mrs. Smith, แฟรนไชส์ Austin Powers)

ตัวอย่างหนัง โรนิล 47